Close
  • TH
  • |
  • EN
  • Facebook
  • Youtube
  • CSR

  • Close
  • EN
  • Facebook
  • Youtube
  • ESG
  • หน้าหลัก
  • บทวิเคราะห์
  • บริการ
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • Trinity Academy
  • Trinity Member
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • เปิดบัญชี
  • Trinity
    Member
  • ดาวน์โหลด
  • Suitability

INSIGHT TO INVEST

เข้าใจลึกซึ้ง เข้าถึงทุกการลงทุน

  1. หน้าแรก
  2. แหล่งความรู้
  3. หุ้นกู้
  • หลักทรัพย์ & อนุพันธ์
  • หุ้นกู้
  • ลงทุนในเวียดนาม
  • คริปโทเคอร์เรนซี่
  • ทองคำ
  • บทความการลงทุน
  • อธิบายคำศัพท์
  • ความรู้เรื่องหุ้นกู้

  • หุ้นกู้คืออะไร
  • ประโยชน์จากการลงทุนในหุ้นกู้
  • คุณสมบัติพื้นฐานของหุ้นกู้
  • ความเสี่ยงของหู้นกู้
  • รู้จักกับผลตอบแทน (Yield)
  • สิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด
  • เงื่อนไขการค้ำประกัน (Collateralization)
  • กองทุนรวมตราสารหนี้
  • ภาษีจากการลงทุนในหุ้นกู้
  • ข้อมูลพื้นฐานอื่นๆ ที่ควรรู้
  • หุ้นกู้ "ทรีนีตี้ วัฒนา"

  • Trinity Asian Private Fund

  • หุ้น IPO

  • หุ้นกู้ที่ออกโดย "ทรีนีตี้"

  • ความรู้เรื่องหุ้นกู้

  • หุ้นกู้คืออะไร
  • ประโยชน์จากการลงทุนในหุ้นกู้
  • คุณสมบัติพื้นฐานของหุ้นกู้
  • ความเสี่ยงของหู้นกู้
  • รู้จักกับผลตอบแทน (Yield)
  • สิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนด
  • เงื่อนไขการค้ำประกัน (Collateralization)
  • กองทุนรวมตราสารหนี้
  • ภาษีจากการลงทุนในหุ้นกู้
  • ข้อมูลพื้นฐานอื่นๆ ที่ควรรู้

รู้จักอัตราผลตอบแทน (Yield)


อัตราผลตอบแทนหรือ Yield เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งที่นักลงทุนในตราสารหนี้จะต้องทำความเข้าใจเพื่อใช้เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้แต่ละรุ่น อย่างไรก็ตาม Yield จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเคลื่อนไหวของราคาตราสารหนี้ซึ่งผันผวนตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ขอยกตัวอย่างที่จะช่วยทำให้เข้าใจถึงการทำงานของอัตราผลตอบแทน (Yield) ให้ชัดเจนขึ้น ดังนี้ 

หากท่านต้องการขายหุ้นกู้ที่ลงทุนมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี โดยสมมติว่าท่านซื้อที่ราคาหน้าตั๋วคือ 1000 บาทต่อหน่วย โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% อายุหุ้นกู้ 5 ปี โดยในช่วงเวลาขายนั้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีระดับสูงมากกว่าช่วงที่ท่านซื้อตราสารหนี้เมื่อปีที่ผ่านมา เช่น 6% สำหรับหุ้นกู้ ออกใหม่ที่มีอายุ 4 ปี ซึ่งเท่ากับอายุคงเหลือของหุ้นกู้ที่ท่านลงทุนอยู่ ราคาที่ผู้ซื้อจะตกลงใจซื้อจากท่านควรจะต้องเป็นราคาที่ต่ำกว่า 1000 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นราคาที่ท่านซื้อมา

เนื่องจากผู้ซื้อมีทางเลือกในการลงทุน โดยอาจซื้อหุ้นกู้ที่ออกใหม่อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ที่ราคาหน้าตั๋ว 1000 บาท ต่อหน่วย หรือซื้อหุ้นกู้จากท่านที่อายุคงเหลือ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ที่ราคาหรือมูลค่าน้อยกว่า 1000 บาท ต่อหน่วย โดยทางเลือกที่ 2 นี้ ผู้ซื้อจะได้รับดอกเบี้ย 5% ตลอดระเวลา 4  ปีข้างหน้า เปรียบเทียบกับทางเลือกที่ 1 ที่จะได้ดอกเบี้ย 6% ภายในระยะเวลาเดียวกัน และได้รับเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนดไถ่ถอนเท่ากัน ดังนั้น ราคาที่ผู้ซื้อจะซื้อจากทางเลือกที่ 2  ต้องต่ำกว่าทางเลือกที่ 1 คือต้องน้อยกว่า 1000 บามต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากทางเลือกที่ 2 สูงขึ้นใกล้เคียงกับเงื่่อนไขของตลาดขณะนั้น ซึ่งคืออัตราผลตอบแทนของทางเลือกที่ 1 ที่ 6%

ประเภทของอัตราผลตอบแทนมีหลากหลายรูปแบบ โดยรูปแบบที่สำคัญที่จะกล่าวถึงในที่นี้มี 2 ประเภท คือ อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Current Yield) และอัตราผลตอบแทนคำนวณถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน (Yield to Maturity)


1. อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Current Yield) 

อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน หรือ Current Yield คือ อัตราผลตอบแทนที่คำนวณแบบง่ายจากผลตอบแทนต่อปีที่ได้รับ เทียบกับราคาหรือต้นทุนที่ซื้อมา โดยไม่คำนึงอายุตราสารหนี้ ในกรณีที่ท่านลงทุนซื้อตราสารหนี้ที่ราคาหน้าตั๋ว Current Yield จะเท่ากับอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้นั้น เช่น หากซื้อตราสารหนี้ที่ราคาหน้าตั๋ว (1000 บาท) สำหรับตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยที่อัตรา 6% ต่อปี Current Yield ก็จะเท่ากับ 6% ((1000X0.06) / 1000) อย่างไรก็ตาม หากราคาของตราสารหนี้มากหรือน้อยกว่าราคาหน้าตั๋ว Current Yield จะไม่เท่ากับอัตราดอกเบี้ย ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ลงทุนซื้อตราสารหนี้ที่มีราคาหน้าตั๋ว 1000 บาท จ่ายดอกเบี้ย 6% ที่ราคา 900 บาท Current Yield จะเท่ากับ 6.67% ((1000X0.06)/900)

2. อัตราผลตอบแทนคำนวณถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน (Yield to Maturity) 

อัตราผลตอบแทนคำนวณถึงวันครบกำหนดไถ่ถอนหรือ Yield to Maturity เป็นอัตราผลตอบแทนที่มีการกล่าวถึงมากที่สุด เนื่องจากเป็นตัววัดอัตราผลตอบแทนโดยรวมของการถือตราสารหนี้หนึ่งๆ จนถึงวันครบกำหนดอายุ โดยคำนวณจากดอกเบี้ยรับตลอดช่วงอายุและเงินต้นเมื่อครบอายุ รวมทั้งกำไรที่ได้รับ (หากซื้อตราสารหนี้มาในราคาต่ำกว่าราคาหน้าตั๋ว) หรือหักด้วยผลขาดทุน (หากซื้อตราสารหนี้มาในราคาสูงกว่าราคาหน้าตั๋ว)

Yield to Maturity ยังเป็นเครื่องมือสำหรับนักลงทุนที่ใช้เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ชนิดต่างๆ เพื่อลงทุนโดยแม้ว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยและอายุที่แตกต่าง ผู้ลงทุนควรสอบถามที่ปรึกษาการลงทุนหรือเจ้าหน้าที่ของ Dealer ถึงอัตราผลตอบแทนคำนวณจนถึงวันกำหนดไถ่ถอน (Yield to Maturity) ของตราสารหนี้ที่ท่านสนใจจะลงทุน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาการลงทุน โดยอย่าใช้เพียงข้อมูลอัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Current Yield) ในการพิจารณาการลงทุน เพราะตัวเลขดังกล่าวจะไม่สะท้อนถึงผลตอบแทนที่แท้จริงของตราสารหนี้นั้น

Trinity Academy

ห้องเรียนการลงทุนอย่างมืออาชีพ

ลงทุนหุ้นจีนผ่าน DRx ง่ายนิดเดียว!

ความรู้การลงทุนหุ้น อนุพันธ์ และสินทรัพย์อื่นๆ

บทความการลงทุน

สอบถามข้อมูลทั่วไป

0-2088-9100

สอบถามข้อมูลซื้อขายหลักทรัพย์

0-2343-9555

e-mail

trinity@trinitythai.com

Shortcut Menu

หน้าหลัก

บทวิเคราะห์

  • บทวิเคราะห์ล่าสุด
  • ปัจจัยทางเทคนิค
  • ปัจจัยพื้นฐาน
  • บทวิเคราะห์รายหลักทรัพย์
  • บทวิเคราะห์ราย Sector
  • Trinity Quick Win

ประกาศและข่าวสาร

  • ประกาศ
  • ประกาศทั่วไป
  • ข้อมูลเกี่ยวกับซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต
  • ปฏิทินหลักทรัพย์

ข้อมูลนักลงทุน

  • เจาะเทรนด์ลงทุน
  • กลยุทธ์การลงทุน
  • ความรู้การลงทุน
  • กลยุทธ์ทางเทคนิค
  • สัมมนา
  • เจาะเทรนด์ลงทุน
  • บทความการลงทุน

ข้อมูลสมาชิก

ติดต่อเรา

  • นโยบายการใช้คุ้กกี้
  • การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • Home
  • Ask a Question
  • Contact Us
  • FAQs

Copyright 2025 All right reserved. Trinity Securities Group.

บริษัทฯ มีการใช้งานคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของคุณกรุณากด ยอมรับ เพื่อยินยอมให้บริษัทฯ ใช้คุกกี้ คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้