Trinity Academy: 3 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นปิโตรเคมี
3 ข้อควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นปิโตรเคมี
- 3 ข้อควรรู้ก่อนลงทุน “หุ้นปิโตรเคมี” -
-TRINITY Academy-
วันนี้บล.ทรีนีตี้จะมาเล่าเกี่ยวกับภาคส่วนที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย ซึ่งก็คือกลุ่มปิโตรเคมีนั่นเอง โดยเราจะนำข้อควรรู้และปัจจัยอื่นๆที่ส่งมีผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีมาให้ทุกคนได้ดูกัน
1.หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี เป็น Sector ที่มี Market Cap ใหญ่ที่สุดใน SET (รวมกว่า 3.7 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 20% ของมูลค่า Market Cap รวมของ SET)
และ PTT เป็นหุ้นที่มี Market Cap ใหญ่ที่สุดในกลุ่มพลังงานและปิโตรที่ประมาณ 9 แสนล้านบาท ดังนั้นการเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีจึงมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ SET ค่อนข้างมาก
2.) หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีมักไม่ใช้ PE ในการวิเคราะห์ราคาหุ้น เพราะผลกำไรของหุ้นในกลุ่มนี้มีความผันผวนและมีโอกาสขาดทุนจาก Stockloss (สินค้าคงเหลือมูลค่าลดลง) , อัตราแลกเปลี่ยน และ Hedging (การป้องกันความเสี่ยง) ดังนั้นแล้วเครื่องมือที่นิยมใช้ในหุ้นกลุ่มนี้คือ
(1) EV/EBITDA ใช้ประเมิน Operating Cashflow ได้ส่วนหนึ่ง และกลุ่มนี้มักมีค่าเสื่อมและตัดจำหน่ายที่ค่อนข้างมาก และถึงแม้ EBITDA จะมีโอกาสติดลบแต่ก็เป็นโอกาสที่น้อยกว่าการใช้ PE เป็นตัววิเคราะห์
(2) PBV ใช้ประเมิน Downside ของหุ้นในกลุ่มนี้ และมีความผันผวนที่น้อยกว่า PE
3.หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีมักมีผลกำไรขึ้นลงตามราคาน้ำมันเพราะมีความแปรผัน (Correlation) กับราคาน้ำมันสูงถึง 70% และหุ้นหลักในกลุ่มนี้จึงมีผลกำไรขึ้นลงตามราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็น PTTEP ที่ราคาขายอิงตามราคาน้ำมัน และกลุ่มโรงกลั่นที่มีแนวโน้มจะมี Stock gain จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น
โดยลูกค้าสามารถติดตามราคานํ้ามันได้ที่ https://th.investing.com/commodities/crude-oil
————————————
เปิดบัญชีออนไลน์ คลิก https://rb.gy/meitv
————————————
#TrinitySecurities #TrinityResearch #TrinityAcademy
22.06.66