Tokenomic คืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับ Cryptocurrency ??
Tokenomic
Tokenomic เป็นการสมาสคำ 2 คำคือ Token และ Economic เข้าด้วยกัน หากแปลตรงตัวจะหมายถึง "เศรษฐศาสตร์ของโทเคน" คือการเอาความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับการศึกษาตัวโทเคนและอธิบายออกมาในรูปแบบที่สามารถจับต้องได้ โดยความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ก็จะมีตั้งแต่ขั้นพื้นฐานอย่าง Demand/Supply หรือขั้นซับซ้อน ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินฝืด ไปจนถึงการประเมินอัตราการเติบโตจาก Market Size
Tokenomic อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ดี ก่อนจะไปลงเล่นกับเหรียญ Crypto ที่ต่อให้เราไม่มีความรู้ด้านเทคนิคสำหรับการนำไปใช้อ่าน Smart Contract แต่อย่างน้อยความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ก็จะช่วยให้เรามองเห็นถึงอนาคตของเหรียญนั้นๆ ได้ในระดับนึง
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่วงการ Cryptocurrency สิ่งที่สำคัญคือต้องทราบปัจจัยที่อาจจะส่งผลต่อมูลค่าของโทเคนที่เกิดจากการเข้ารหัส อันได้แก่
1.การกระจายและการจัดสรรโทเคน (Distribution and allocation of tokens)
ปัจจัยหลักประการหนึ่งที่ตัดสินมูลค่าของโทเคน Crypto คือวิธีการแจกจ่ายโทเคน ที่มีวิธีในการสร้างโทเคนการเข้ารหัส โดยการขุดล่วงหน้าหรือทำ Fair Launch ที่หมายถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกขุดขึ้นมาและถูกควบคุมโดยชุมชนตั้งแต่แรกเริ่ม เป็นเครือข่ายที่กระจายอำนาจและไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับการจัดสรรส่วนตัว อย่างไรก็ตามด้วยการขุดล่วงหน้า เหรียญจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะถูกขุดและทำการแจกจ่ายก่อนที่จะเปิดตัวสู่สาธารณะ และส่วนที่ 2 จะถูกทำการ ICO ให้กับผู้ที่สนใจ ซึ่งเป็นวิธีที่ให้รางวัลแก่ นักขุด และนักลงทุนรายแรกๆ ด้วยเหรียญที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่
2.การจัดหาโทเคน Supply of token
เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากในการศึกษาโทเคนของการเข้ารหัสลับ ที่จะประกอบไปด้วยอุปทาน 3 ประเภท ได้แก่
1) อุปทานหมุนเวียน Circulating Supply คือ จำนวนโทเคนสกุลเงินดิจิทัลที่ออกสู่สาธารณะและมีการหมุนเวียนเกิดขึ้น
2) อุปทานทั้งหมด Total Supply คือ จำนวนของโทเคนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ลบด้วยโทเคนทั้งหมดที่ถูกเผา คำนวณออกมาเป็นผลรวมของโทเคนที่หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบันและโทเคนที่ถูกล็อคไว้
3) อุปทานสูงสุด Max Supply คือ จำนวนโทเคนสูงสุดที่จะถูกสร้างขึ้น
ซึ่งการสังเกตอุปทานของโทเคนอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีในอนาคต หากส่วนของอุปทานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนจะสามารถคาดหวังได้ว่ามูลค่าของโทเคนจะเพิ่มขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม หากมีการปล่อยโทเคนออกมามากเกินไป ค่าของโทเคนก็อาจจะลดลง
3.มูลค่าตลาดของโทเคน Market Capitalization of a token
ในบริบทของ Cryptocurrency มูลค่าตลาดจะเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการกำหนดความนิยมของโทเคน ที่สามารถคำนวณได้โดยการคูณราคาตลาดปัจจุบันของโทเคนกับอุปทานหมุนเวียน ก็จะได้มูลค่าตามราคาตลาดที่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีถึงมูลค่าของโทเคน
4.โมเดลโทเคน Token Model
โทเคนการเข้ารหัสทุกอันมีรูปแบบที่กำหนดมูลค่าของตัวเอง Inflationary Tokens นั้นจะไม่มีการกำหนดอุปทานสูงสุด ทำให้เราสามารถขุดเหรียญนั้นได้เรื่อยๆ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับ Deflationary Tokens ที่มีการกำหนดอุปทานสูงสุดไว้อย่างชัดเจน โดย Deflationary Tokens จะมาช่วยในเรื่องของการหลีกเลี่ยงการหมุนเวียนเหรียญที่ขายไม่ออก ซึ่งมักจะไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาด แต่ในทางกลับกัน Inflationary Tokens จะสามารถจูงใจนักขุด และผู้ตรวจสอบความถูกต้องในเครือข่ายได้ดี
5.เสถียรภาพราคา Price Stability
Tokenomic ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาผลกระทบของเสถียรภาพราคา Cryptocurrency นั้นมีความผันผวนมาก อาจไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักลงทุน ความผันผวนมักจะทำให้ความสนใจของนักลงทุนลดน้อยลง นอกจากนี้ความผันผวนยังอาจทำให้การลงทุนในโทเคนนั้นๆ ถูกจำกัดได้
ฉะนั้นนักลงทุนควรศึกษาให้แน่ใจว่าโทเคนที่เราสนใจนั้นจะมีการออกมาตรการใดมาเพื่อรับมือกับความผันผวนดังกล่าวหรือไม่ ความท้าทายนี้จะสามารถจัดการได้ โดยทำให้แน่ใจว่ามีโทเคนที่เพียงพอกับระดับอุปทาน สิ่งนี้จะทำให้ราคามีเสถียรภาพและนักลงทุนจะสามารถใช้โทเคนเพื่อวัตถุประสงค์ที่ต้องการได้ ทั้งนี้Tokenomic ก็ยังช่วยให้นักพัฒนาของโทเคนนั้นๆ สามารถทำการรักษาเสถียรภาพราคาด้วยการสร้างสมดุลได้อีกด้วย
บทความ Cryptocurrency ประจำเดือนมกราคม 2565